Schedule

ตารางแพทย์ ประจำเดือนนี้

Schedule

ตารางแพทย์ ประจำเดือนนี้

Juvelook Program

โปรแกรม Juvelook

การมีผิวอ่อนเยาว์และสุขภาพดี ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป Juvelook คือ ไหมน้ำตัวดังจากเกาหลีที่ให้ผลลัพธ์ 2 แบบ ไปพร้อมๆ กัน ได้แก่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาวิธีฟื้นฟูผิวที่ให้ผลเป็นธรรมชาติ ให้ผลลัพธ์ยาวนาน ไม่เน้นการเปลี่ยนแปลงรูปหน้า

Juvelook คืออะไร?

Juvelook หรืออีกชื่อก็คือ “ไหมน้ำ” ต่างจาก Skin Booster ทั่วไป แต่เป็นนวัตกรรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแบบ Hybrid Biostimulator ชนิดพิเศษที่ผสมผสานระหว่าง PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) มาไว้ในตัวเดียว ซึ่งจะช่วยทั้งในเรื่องการเติมเต็มผิวและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและยั่งยืน เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกโดยที่ไม่ต้องเจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้น

Juvelook เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ลงโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนในผิวเริ่มลดลง
  • ผู้ที่มีริ้วรอยและร่องลึก เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก ร่องแก้ม เป็นต้น
  • ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวและรอยแผลเป็น ต้องการให้ผิวเรียบเนียน
  • ผู้ที่มีผิวหน้าแห้งกร้าน หมองคล้ำ ผิวขาดน้ำ ดูไม่สดใส
  • ผู้ที่ต้องการกระชับผิวที่หย่อนคล้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟื้นฟูผิวโดยไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนแปลง
  • ผู้ที่มีจุดด่างดำ รอยแดง หรือรอยสิว ต้องการปรับผิวหน้าให้กระจ่างใส ไร้รอยหมองคล้ำ

Juvelook ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยและป้องกันการเกิดริ้วรอย
  • ช่วยกระชับรูขุมขน
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
  • ช่วยฟื้นฟูหลุมสิวและรอยแผลเป็น
  • ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส

Juvelook อันตรายไหม?

Juvelook เป็นหัตถการที่ไม่อันตราย มีความปลอดภัยที่รับรองจากองค์กรชั้นนำระดับโลก และผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดโดย KFDA, CE Mark และ อย.ไทย

รวมถึงความปลอดภัยของสารประกอบใน Juvelook อย่าง PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) ทั้ง 2 อย่างนี้ เป็นสารที่ใช้ในทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน สามารถย่อยสลายได้เองในร่างกายและไม่ทิ้งสารตกค้าง มีผลข้างเคียงต่ำ เห็นผลลัพธ์ชัดเจน แต่ทั้งนี้ก็ควรถูกฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

การเตรียมตัวก่อนฉีด Juvelook

  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA/BHA หรือ Retinol อย่างน้อย 3 วันก่อนการฉีด
  • ควรงดการโดนแสงแดดจัดหรือความร้อน เช่น การทำซาวน่า ก่อนการฉีด อย่างน้อย 1-2 วัน
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ

การดูแลหลังฉีด Juvelook

  • หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด เช่น การทำซาวน่า หรือโยคะร้อน ในช่วง 1-2 วันแรก
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีด 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ห้ามนวดหรือมีการกดแรงๆบริเวณที่ฉีดในช่วงแรก
  • งดการออกกำลังกายที่ทำให้มีเหงื่อออกมาก ในช่วง 1-2 วันแรก
  • งดดื่มแอลกอฮอล์หลังฉีด 1-2 สัปดาห์ เพราะแอลกอฮอล์อาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น รอยแดง อาการบวม รอยฟกช้ำ อาการคัน และอาการปวด

***หมายเหตุ: ก่อนตัดสินใจทำหัตถการใดๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพโดยรวม และประเมินผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

Juvelook Program

โปรแกรม Juvelook

การมีผิวอ่อนเยาว์และสุขภาพดี ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป Juvelook คือ ไหมน้ำตัวดังจากเกาหลีที่ให้ผลลัพธ์ 2 แบบ ไปพร้อมๆ กัน ได้แก่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาวิธีฟื้นฟูผิวที่ให้ผลเป็นธรรมชาติ ให้ผลลัพธ์ยาวนาน ไม่เน้นการเปลี่ยนแปลงรูปหน้า

Juvelook คืออะไร?

Juvelook หรืออีกชื่อก็คือ “ไหมน้ำ” ต่างจาก Skin Booster ทั่วไป แต่เป็นนวัตกรรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแบบ Hybrid Biostimulator ชนิดพิเศษที่ผสมผสานระหว่าง PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) มาไว้ในตัวเดียว ซึ่งจะช่วยทั้งในเรื่องการเติมเต็มผิวและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและยั่งยืน เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกโดยที่ไม่ต้องเจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้น

Juvelook เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ลงโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนในผิวเริ่มลดลง
  • ผู้ที่มีริ้วรอยและร่องลึก เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก ร่องแก้ม เป็นต้น
  • ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวและรอยแผลเป็น ต้องการให้ผิวเรียบเนียน
  • ผู้ที่มีผิวหน้าแห้งกร้าน หมองคล้ำ ผิวขาดน้ำ ดูไม่สดใส
  • ผู้ที่ต้องการกระชับผิวที่หย่อนคล้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟื้นฟูผิวโดยไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนแปลง
  • ผู้ที่มีจุดด่างดำ รอยแดง หรือรอยสิว ต้องการปรับผิวหน้าให้กระจ่างใส ไร้รอยหมองคล้ำ

Juvelook ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยและป้องกันการเกิดริ้วรอย
  • ช่วยกระชับรูขุมขน
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
  • ช่วยฟื้นฟูหลุมสิวและรอยแผลเป็น
  • ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส

Juvelook อันตรายไหม?

Juvelook เป็นหัตถการที่ไม่อันตราย มีความปลอดภัยที่รับรองจากองค์กรชั้นนำระดับโลก และผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดโดย KFDA, CE Mark และ อย.ไทย

รวมถึงความปลอดภัยของสารประกอบใน Juvelook อย่าง PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) ทั้ง 2 อย่างนี้ เป็นสารที่ใช้ในทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน สามารถย่อยสลายได้เองในร่างกายและไม่ทิ้งสารตกค้าง มีผลข้างเคียงต่ำ เห็นผลลัพธ์ชัดเจน แต่ทั้งนี้ก็ควรถูกฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

การเตรียมตัวก่อนฉีด Juvelook

  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA/BHA หรือ Retinol อย่างน้อย 3 วันก่อนการฉีด
  • ควรงดการโดนแสงแดดจัดหรือความร้อน เช่น การทำซาวน่า ก่อนการฉีด อย่างน้อย 1-2 วัน
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ

การดูแลหลังฉีด Juvelook

  • หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด เช่น การทำซาวน่า หรือโยคะร้อน ในช่วง 1-2 วันแรก
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีด 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ห้ามนวดหรือมีการกดแรงๆบริเวณที่ฉีดในช่วงแรก
  • งดการออกกำลังกายที่ทำให้มีเหงื่อออกมาก ในช่วง 1-2 วันแรก
  • งดดื่มแอลกอฮอล์หลังฉีด 1-2 สัปดาห์ เพราะแอลกอฮอล์อาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น รอยแดง อาการบวม รอยฟกช้ำ อาการคัน และอาการปวด

***หมายเหตุ: ก่อนตัดสินใจทำหัตถการใดๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพโดยรวม และประเมินผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

Juvelook Program

โปรแกรม Juvelook

การมีผิวอ่อนเยาว์และสุขภาพดี ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป Juvelook คือ ไหมน้ำตัวดังจากเกาหลีที่ให้ผลลัพธ์ 2 แบบ ไปพร้อมๆ กัน ได้แก่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาวิธีฟื้นฟูผิวที่ให้ผลเป็นธรรมชาติ ให้ผลลัพธ์ยาวนาน ไม่เน้นการเปลี่ยนแปลงรูปหน้า

Juvelook คืออะไร?

Juvelook หรืออีกชื่อก็คือ “ไหมน้ำ” ต่างจาก Skin Booster ทั่วไป แต่เป็นนวัตกรรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแบบ Hybrid Biostimulator ชนิดพิเศษที่ผสมผสานระหว่าง PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) มาไว้ในตัวเดียว ซึ่งจะช่วยทั้งในเรื่องการเติมเต็มผิวและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและยั่งยืน เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกโดยที่ไม่ต้องเจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้น

Juvelook เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ลงโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนในผิวเริ่มลดลง
  • ผู้ที่มีริ้วรอยและร่องลึก เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก ร่องแก้ม เป็นต้น
  • ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวและรอยแผลเป็น ต้องการให้ผิวเรียบเนียน
  • ผู้ที่มีผิวหน้าแห้งกร้าน หมองคล้ำ ผิวขาดน้ำ ดูไม่สดใส
  • ผู้ที่ต้องการกระชับผิวที่หย่อนคล้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟื้นฟูผิวโดยไม่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนแปลง
  • ผู้ที่มีจุดด่างดำ รอยแดง หรือรอยสิว ต้องการปรับผิวหน้าให้กระจ่างใส ไร้รอยหมองคล้ำ

Juvelook ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยและป้องกันการเกิดริ้วรอย
  • ช่วยกระชับรูขุมขน
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
  • ช่วยฟื้นฟูหลุมสิวและรอยแผลเป็น
  • ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส

Juvelook อันตรายไหม?

Juvelook เป็นหัตถการที่ไม่อันตราย มีความปลอดภัยที่รับรองจากองค์กรชั้นนำระดับโลก และผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดโดย KFDA, CE Mark และ อย.ไทย

รวมถึงความปลอดภัยของสารประกอบใน Juvelook อย่าง PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA) ทั้ง 2 อย่างนี้ เป็นสารที่ใช้ในทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน สามารถย่อยสลายได้เองในร่างกายและไม่ทิ้งสารตกค้าง มีผลข้างเคียงต่ำ เห็นผลลัพธ์ชัดเจน แต่ทั้งนี้ก็ควรถูกฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

การเตรียมตัวก่อนฉีด Juvelook

  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA/BHA หรือ Retinol อย่างน้อย 3 วันก่อนการฉีด
  • ควรงดการโดนแสงแดดจัดหรือความร้อน เช่น การทำซาวน่า ก่อนการฉีด อย่างน้อย 1-2 วัน
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ

การดูแลหลังฉีด Juvelook

  • หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด เช่น การทำซาวน่า หรือโยคะร้อน ในช่วง 1-2 วันแรก
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีด 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ห้ามนวดหรือมีการกดแรงๆบริเวณที่ฉีดในช่วงแรก
  • งดการออกกำลังกายที่ทำให้มีเหงื่อออกมาก ในช่วง 1-2 วันแรก
  • งดดื่มแอลกอฮอล์หลังฉีด 1-2 สัปดาห์ เพราะแอลกอฮอล์อาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น รอยแดง อาการบวม รอยฟกช้ำ อาการคัน และอาการปวด

***หมายเหตุ: ก่อนตัดสินใจทำหัตถการใดๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพโดยรวม และประเมินผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น